วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

ต่างชาติขนเงินออกทุบค่าบาทร่วง เผยธนาคารกลางเตรียมเข้าแทรกแซง

ต่างชาติขนเงินออกทุบค่าบาทร่วง เผยธนาคารกลางเตรียมเข้าแทรกแซง

เงินบาทอ่อนค่าหนักใกล้หลุด 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หลังทุนต่างชาติเริ่มไหลออก แนะจับตาธนาคารกลางทั่วเอเชีย เข้าแทรกแซงค่าเงินในประเทศ เพื่อชะลอความผันผวน ขณะที่ ธปท. ดูแลตลาดใกล้ชิด ชี้ สถานการณ์ยังไม่น่ากังวล

รายงานภาวะค่าเงินบาท เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2554 (วานนี้) เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.76-30.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดย ระหว่างวันปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากการไหลออกเงินทุนต่างชาติ จนปิดตลาดที่ระดับ 30.86-30.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยคาดว่าเป็นการถอนลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้น โดยดัชนีหลักทรัพย์ของไทยปรับลงหนัก 2 วันซ้อนกว่า 70 จุด ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายไปถึง 2.65 แสนล้านบาท

นักบริหารอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์ไทย เชื่อว่าในช่วง 1-2 วันนี้ ธนาคารกลางทั่วเอเชีย รวมทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจต้องเข้าแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนในปริมาณที่สูงขึ้น เพื่อดูแลไม่ให้ค่าเงินเคลื่อนไหวผันผวนในลักษณะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ มากนัก

ทั้งนี้ การผันผวนของค่าเงินเอเชีย รวมทั้งค่าเงินบาท เกิดจากความกังวลของนักลงทุนต่างชาติต่อปัญหาวิกฤตหนี้ในกลุ่มประเทศยุโรป โดยเฉพาะความกังวลว่าจะลุกลามไปยังอิตาลีซึ่งเป็นตลาดพันธบัตรขนาดใหญ่ในกลุ่มยุโรป ส่งผลให้เกิดการเทขายสินทรัพย์ทั้งในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นในเอเชียรวมทั้งไทย เพื่อเข้าไปถือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลอื่น

สำหรับกรณีของปัญหาดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลกระทบค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยในช่วงระยะสั้น1-2 เดือน นับจากนี้เป็นต้นไป คาดว่าเงินบาทจะอ่อนค่าแตะระดับ 31.00-31.50 บาทต่อดอลลาร์ และหากปัญหาวิกฤตหนี้ในยุโรปได้รับการแก้ไขดีขึ้น ค่าเงินบาทในช่วง 6-12 เดือนนับจากนั้น จะกลับมาแข็งค่าในระดับ 30.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลกลับ

นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. กล่าวว่า ธปท.ได้ติดตามดูสถานการณ์ในตลาดการเงินของไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งเห็นว่าการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไทยช่วงนี้ยังไม่มีประเด็นใดที่น่ากังวล ส่วนเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐซึ่งอ่อนค่าลงก็เป็นไปทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค และที่ผ่านมา ธปท.ก็ไม่ได้เข้าไปดูแลแต่อย่างใด

โดยในส่วนของผู้ส่งออกเริ่มเห็นว่า หลังจากเงินบาทอ่อนค่าลง ก็มีการขายเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ออกมากันค่อนข้างมาก ขณะที่ผู้นำเข้าเป็นผู้ซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้การเคลื่อนไหวของค่าเงินค่อนข้างมีเสถียรภาพ ส่วนการลงทุนในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นช่วง 2-3 วันมานี้ก็เริ่มมีแรงขายออกมาค่อนข้างมากเช่นกัน

ขณะที่รายงานทุนสำรองระหว่างประเทศของ ธปท. วันที่ 16 กันยานยน 2554 มีจำนวน 184,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฐานะเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิมี 27,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมแล้วมีทุนสำรองฯ สุทธิ 211,900 ล้านเดอลลาร์สหรัฐฯ


ที่มา
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000121652