วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2554

หุ้นไทยดิ่ง 50 จุด ผวาตลาดเข้าสู่ภาวะหมี ตลท. เตรียมแถลงเรียกความเชื่อมั่น

หุ้นไทยดิ่ง 50 จุด ผวาตลาดเข้าสู่ภาวะหมี ตลท. เตรียมแถลงเรียกความเชื่อมั่น

หุ้นไทยร่วง 50 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หลังดาวโจนส์วูบกว่า 400 จุด เมื่อคืนนี้ คาดทิศทางหุ้นทั่วโลกเข้าสู่ภาวะหมี "จรัมพร" เรียกถกด่วนผู้บริหาร ตลท. รับมือสถานการณ์วิกฤต พร้อมเปิดแถลงข่าวเรียกความเชื่อมั่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ ดัชนีเปิดภาคเช้าปรับตัวลงค่อนข้างแรง ตามทิศทางตลาดหุ้นในต่างประเทศ โดยเมื่อเวลา 12.01 น. ดัชนีอยู่ที่ 943.59 จุด ลดลง 48.54 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -4.90% มูลค่าซื้อขายกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท

นักวิเคราะห์ระบุว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยเปิดมาในช่วงเช้าร่วงแรงต่อเนื่องจากเมื่อวาน เป็นตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก หลังดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงหนักกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ เป็นผลมาจากความวิตกกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยเฉพาะความผิดหวังต่อมาตรการสว็อปพันธบัตรของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมทั้งปัญหาหนี้ยูโรโซนกดดันทางจิตวิทยาการลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเข้าสู่ภาวะหมี

ทั้งนี้ มองว่าผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลจิตวิทยาในเชิงลบต่อเนื่อง โดยเฉพาะปัญหายูโรโซนมีแนวโน้มหนักกว่าปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะการรวมกลุ่มส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแอ ดังนั้น มีโอกาสกลุ่มยูโรโซนอาจจะแตก

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้เรียกหารือด่วนผู้บริหาร ตลท. หลังดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงไปลึกสุดถึง 50 จุด โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเสนอให้เปิดแถลงข่าวเพื่อเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน คาดว่าจะเริ่มหลังปิดเทรดช่วงเช้านี้ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในขณะนี้

ล่าสุด ดัชนีหุ้นไทยปิดภาคเช้าที่ระดับ 947.98 จุด ลดลง 42.61 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -4.30% มูลค่าการซื้อขาย 28,538.45 ล้านบาท เป็นการปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน

ฝ่ายสื่อสารองค์กร ตลท. แจ้งเพิ่มเติมว่า ในเวลา 13.30 น. นายจรัมพร เตรียมแถลงข่าวที่ห้องผู้สื่อข่าวตลาดหลักทรัพย์ถึงมาตรการต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นการลงทุน ทั้งนี้ จากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 หุ้นไทยร่วงลงแรงตามต่างประเทศจนเกิดข้อตกลงระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินตลาดทุนตั้งแต่ ตลท. กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่าหากระดับดัชนีลดลงสู่ระดับ 4-5 % จะมีออกหนังสือเตือนผู้ลงทุนให้ลงทุนอย่างระมัดระวัง ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ก็เตรียมหารือมาตรการร่วมกัน เพื่อหาวิธีรับวิกฤตดังกล่าว ซึ่งมาตรการดังกล่าวถือเป็นมาตรการหนึ่งที่รองรับก่อนที่จะใช้การสั่งพักการซื้อขายชั่วคราว (เซอร์กิจเบรกเกอร์) ที่ใช้เมื่อดัชนีร่วงถึง 10%

ที่มา
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000121347