วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

สยองขวัญ18กิจการอันตราย

หุ้นไทยเข่าอ่อน ยืน900ไม่อยู่จ่อลงอีก-สยองขวัญ18กิจการอันตราย

หุ้นไทยได้ตื่นเต้น!แค่ชั่ววูบ ดัชนีทะลุเหนือ 900 จุดได้ แต่ยืนนานไม่ไหว รูดลงเหลือปิดเพิ่มแค่ 0.86 จุด จากแรงเทขายทำกำไร และกรณีมาบตาพุดที่จะมีการประกาศรายชื่อ 18 อุตสาหกรรมอันตรายใน 1-2 วันนี้ ฉุดนักลงทุนเทขายกลุ่มปตท กดดันตลาด ฟากต่างชาติซื้อสุทธิแค่ 204 ล้าน โบรกฯประเมินวันนี้ เริ่มเข้าสู่ช่วงปรับฐาน แนะนักลงทุนติดตามค่าบาทใกล้ชิด อ่อนค่าเมื่อใด หมายถึงสัญญาณฝรั่งชะลอตัว

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วานนี้ (23ส.ค.) ดัชนีหลักทรัพย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 0.86 จุด หรือ 0.10% โดยปิดที่ ปิดที่ระดับ 894.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,161.02 ล้านบาท ทั้งที่ดัชนีสามารถขึ้นไปแตะที่ระดับ 900.78 จุดได้แล้ว แต่ก็ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 900 จุดได้ไม่นาน ก็ร่วงลงมาปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 899.99 จุด ซึ่งสร้างเสียงฮือฮาตามห้องค้าต่างๆได้

ขณะที่เมื่อเปิดตลาดซื้อขายในช่วงบ่าย ดัชนีก็ปรับตัวผันผวน ก่อนลดลงมา โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ ระดับ 900.78 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 891.58 จุด หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 186 หลักทรัพย์ ลดลง 192 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 126 หลักทรัพย์

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,742.71 ล้านบาท ปิดที่ 264.00 บาท ลดลง 2.00 บาท JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,511.36 ล้านบาท ปิดที่ 1.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,464.32 ล้านบาท ปิดที่ 272.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท SAMART มูลค่าการซื้อขาย 1,415.55 ล้านบาท ปิดที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท และ TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,257.22 ล้านบาท ปิดที่ 2.22 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท

ส่วนการซื้อขายแยกตามประเภทนักลงทุนพบว่า สถาบันซื้อสุทธิ 103.08 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อสุทธิ 204.26 ล้านบาท ด้านบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และนักลงทุนทั่วไป ขายสุทธิ 244.81 ล้านบาท และ 62.54 ล้านบาท ตามลำดับ

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้มีแรงขายทำกำไรออกมาในระหว่างเทรด ภายหลังจากที่ดัชนีฯไม่สามารถผ่านแนวขึ้นไปยืนเหนือ 900 จุดได้ และ โดยเฉพาะประเด็นการประกาศรายชื่อ 18 อุตสาหกรรมที่มีผลกระทบร้ายแรงที่ยังต้องใช้เวลาอีก 1-2 วัน ทำให้นักลงทุนเกรงว่าอาจเป็นข่าวลบ จึงขายหุ้นในกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT)ออกมาก่อน อย่างไรก็ดี ช่วงเช้าวานนี้ ตลาดหุ้นยังได้ปัจจัยบวกจาก Fund Flow ที่ยังไหลเข้า และตัวเลข GDP ของไทยงวดไตรมาส 2/53 ที่ออกมาขยายตัว 9.1% ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะแกว่งอยู่ในแดนบวก โดยนักลงทุนยังมอนิเตอร์สัญญาณทางเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่อยู่

โดยแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(24 ส.ค.) คาดว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะแกว่งตัว พร้อมให้แนวรับ 888 จุด แนวต้าน 900 จุด

นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีภาคเช้าสามารถอยู่ในแดนบวกจนสามารถไปแตะระดับเหนือ 900 จุด ได้ช่วงสั้น และทำให้ช่วงเช้าดัชนีสามารถปิดบวกได้ถึง 6 จุด เนื่องจากยังได้แรงหนุนจากเม็ดเงินต่างชาติยังไหลเข้าภูมิภาคเอเชียต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนยังมีความกังวลต่อภาวะการพื้นตัวเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐ ทำให้นำเงินลงทุนมาพักฐานที่เอเชียก่อน

ส่วนที่ภาคบ่ายดัชนีทยอยปรับลง เป็นเพราะแรงขายทำกำไรข่าวข่าวที่นายกรัฐมนตรีขอเลื่อนแถลงความชัดเจนของ 18 ประเภทโครงการที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงในมาบตาพุด 1-2 วัน หลังคณะกรรมการได้ชี้แจงร่างกฎหมายที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้เห็นชอบตัด 4 กิจการออกจาก 18 กิจการประเภทรุนแรง

ดังนั้นในระยะสั้นดัชนีจะเข้าสู่การปรับฐาน หลังดัชนีได้เพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง สังเกตได้จากดัชนีเปิดบวกแต่ช่วงบ่ายเกิดแรงขายทำกำไรมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ให้นักลงทุนติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเป็นหลัก เพราะหากค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าเมื่อไรก็อาจเป็นสัญญาณของการปรับฐาน ซึ่งหมายถึงเม็ดเงินต่างชาติจะเริ่มชะลอลง โดยประเมินดัชนีเคลื่อนไหววันนี้ที่กรอบ แนวต้าน 900-903 จุด และแนวรับที่ 885 จุด

ขณะเดียวกัน สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือสกุลเงินในประเทศและต่างประเทศของบริษัท 5 แห่งในกลุ่มบมจ. ปตท (PTT) และทบทวนแนวโน้มเครดิต 2 ใน 5 บริษัทดังกล่าวเป็นมีเสถียรภาพ จากเดิมเชิงลบ

ทั้งนี้ S&P ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของ IRPC และ PTTAR ที่ BBB- และปรับเพิ่มแนวโน้มเครดิตเป็นมีเสถียรภาพ พร้อมคงอันดับเครดิตและแนวโน้มเครดิตของ PTT ที่ BBB+ แนวโน้มเชิงลบ, PTTCH ที่ BBB แนวโน้มเชิงลบ และ Thaioil ที่ BBB แนวโน้มเชิงลบ