วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไพรเวทฟันด์บัวหลวงโตทะยาน ดันใช้Employee’sChoiceกองสำรองฯเต็มตัว

ไพรเวทฟันด์บัวหลวงโตทะยาน ดันใช้Employee’sChoiceกองสำรองฯเต็มตัว

บลจ.บัวหลวง เผย ไพรเวทฟันด์ 2554 โตขึ้น 500% จากสิ้นปี 2553 ที่ 1,000 ล้านบาทเป็น 6,000 ล้านบาท โดยเน้นเจาะฐานลูกค้าบ.ขนาดกลาง-ใหญ่ ที่มีเงินเหลือ ขณะที่กองสำรองเลี้ยงชีพปีนี้โตขึ้น 15% และเตรียมใช้ระบบ Employee’s Choice 100% ในอีก 2 - 3 ปี ข้างหน้า ขณะเดียวกัน มอง ราคาทองคำปีหน้า ถึง 1,800-2,000 เหรียญฯ

นายหรรสา สุสายัณห์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บัวหลวง เปิดเผยว่า ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลของบริษัทในปี 2554 มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2553 ที่ 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 500% เป็นการเติบโตจากฐานที่ค่อนข้างเล็ก โดยแนวทางในการทำธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลจะเน้นไปในการเจาะฐานลูกค้าบริษัทขนาดกลาง-ใหญ่ที่มีเงินเหลือต้องการบริหาร ซึ่งการที่บริษัทได้บริหารเงินส่วนกลางของ “โครงการดิ เอ็นเนอร์จี้ หัวหิน” ก็ถือเป็นการเปิดตัวแนวทางในทำธุรกิจรูปแบบนี้ของบริษัทได้เป็นอย่างดี จากในอดีตที่ทุกบลจ.จะมุ่งไปในการบริหารเงินให้กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือ กองทุนประกันสังคม (สปส.) เพียงอย่างเดียว บริษัทก็จะขยับมาเปิดตลาดบริษัทที่มีเงินเหลือต้องการบริหารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งในอดีตบริษัทเหล่านี้จะบริหารกันเองเช่นไปฝากประจำบ้าง ซื้อพันธบัตรรัฐบาลบ้าง แต่เวลาจำเป็นต้องใช้เงินกะทันหันต้องถอนออกมาก็ได้ดอกเบี้ยต่ำ หรือขายขาดทุนก็มี

โดยการบริหารเงินของบริษัทที่มีเหลือนั้น ต่อไปบริษัทเหล่านั้นอาจจะเอาท์ซอสให้บลจ.มาเป็นผู้บริหารให้แทนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นี่คือแนวทางที่บริษัทจะมุ่งไปในอนาคต

นายหรรสา ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเองนั้นบริษัทไม่ได้เน้นในเรื่องของการเติบโตของสินทรัพย์มากนัก เพราะต้องยอมรับว่าตลาดนี้มีการแข่งขันกันสูงโดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ แต่ในปี 2554 ที่ผ่านมาจำนวนบัญชีลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทมีการเติบโตขึ้นประมาณ 15% ถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ โดยบริษัทเน้นเจาะฐานลูกค้าขนาดกลางและเล็ก โดยใช้ทางเลือกการลงทุน (Employee’s Choice) เป็นตัวนำเพื่อให้สมาชิกสามารถบริหารเงินเพื่อเกษียณในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะให้ลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปัจจุบันมาใช้ระบบ Employee’s Choice ทั้งหมด 100% ในอีก 2 - 3 ปี ข้างหน้า โดยจะค่อยๆ แนะนำให้กับลูกค้าเดิมเพราะในส่วนลูกค้าใหม่ที่เข้ามาบริษัทให้เข้าสู่ระบบ Employee’s Choice อยู่แล้ว

“ปัจจุบันการลงทุนในทองคำและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ได้รับการยอมรับจากลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากขึ้นตามลำดับ ในอนาคตการขยับเข้ามาลงทุนในทางเลือกการลงทุนทั้ง 21 รูปแบบ นี้ก็คงมีมากขึ้น แต่ขึ้นกับซัพพลายของสินค้าด้วยว่าจะมีเพียงพอให้ลงทุนได้หรือไม่ แต่ก็ถือเป็นการเปิดกรอบการลงทุนให้กว้างขึ้นจากในอดีตพอสมควร” นายหรรสา กล่าว

ด้านนายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2555 คาดว่าจะเติบโตในระดับ 3 - 4% โดยกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะเป็นตัวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในขณะที่ประเทศไทยหลังเจออุทกภัยครั้งใหญ่ปี54 การเติบโตจะเป็นลักษณะวีเชพ (V) เพราะฐานะการคลังที่แข็งแกร่ง หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ไม่สูงประมาณ 42% สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ถึง 60% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะอยู่ที่เงินลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่จำเป็นต้องมีการฟื้นฟูซ่อมแซม โดยคาดว่าในปี55 นั้น กำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตประมาณ 10-12% ซึ่งรวมการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงแล้ว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี55 จะโตประมาณ 4.5% จากปีนี้ที่คาดว่าจะะเติบโต 1.5 - 2.0% เนื่องจากไตรมาสที่4/54 ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเข้ามา

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในปี 2555 ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ แม้ช่วงที่ผ่านมาราคาทองจะปรับลัลงจากแรงขายทำกำไรและถูกบังคับขาย เนื่องจากตลาดทองฟิวเจอร์ในสหรัฐมีการลงทุนด้วยมาร์จิ้น 20% เมื่อราคาทองลงระดับหนึ่งก็ถูกบังคับขายออกมา อย่างไรก็ตามหากดูระยะยาวการที่ธนาคารกลางหลายๆ ประเทศลดการสำรองเงินยูโรลงจากปัญหาหนี้ในยุโรป และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คงนโยบายดอกเบี้ยต่ำถึงกลางปี2556 นั้น รวมถึงการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งติดต่อกัน ทำให้เอื้อต่อการลงทุนในทองคำในระยะกลางถึงยาว ถือเป็นสินทรัพย์ที่ เหมาะกับการกระจายการลงทุน ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา ทองคำให้ผลตอบแทนเป้นบวกทุกปี และในปี 2554 แม้ราคาจะปรับตัวลงมาก็ยังบวกประมาณ 10%

"ตลาดมองว่าทองคำในปี 2555 อาจไปถึง 1,800-2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งบริษัทเองก็มีมุมมองในเชิงบวกต่อการลงทุนในทองคำเช่นกัน" นายพีรพงศ์ กล่าว


ผู้จัดการออนไลน์