วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

TFEX ปรับเพิ่มมาร์จิ้น SET50 และ Gold Futures ดีเดย์ 19 ส.ค.นี้

TFEX ปรับเพิ่มมาร์จิ้น SET50 และ Gold Futures ดีเดย์ 19 ส.ค.นี้

ตลาดอนุพันธ์เผยสำนักหักบัญชีเตรียมปรับเพิ่มอัตราหลักประกันสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือมาร์จิ้น (margin) สำหรับฟิวเจอร์ส ของดัชนี SET50 (SET50 Index Futures) และโกลด์ฟิวเจอร์สเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มใช้อัตราหลักประกันใหม่ เริ่มตั้งแต่ 19 ส.ค.นี้

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX แจ้งว่า จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรปในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้ลงทุนเกิดความไม่มั่นใจและมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนโดยหันมาถือครองทองคำซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงขึ้น ส่งผลให้การซื้อขายหลักทรัพย์และทองคำมีความคึกคักแต่ผันผวนอย่างมากและทำให้สำนักหักบัญชีต้องพิจารณาปรับเพิ่มอัตราหลักประกันของฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 (SET50 IndexFutures) และโกลด์ฟิวเจอร์สตามสภาพความผันผวนของตลาด โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 54 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ การปรับหลักประกันดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ลงทุนทั่วไปต้องวางหลักประกันของฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 เพิ่มขึ้นจาก 38,000 บาทต่อสัญญา เป็น 53,200 บาทต่อสัญญา โกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 50 บาททองคำ จาก 47,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 62,700 บาทต่อสัญญา และโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาททองคำ จาก 9,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 12,540 บาทต่อสัญญา สำหรับอัตราหลักประกันของซิลเวอร์ฟิวเจอร์สของผู้ลงทุนทั่วไปนั้น จะปรับลดลงจาก29,450 บาทต่อสัญญามาเป็น 21,850บาทต่อสัญญาในขณะที่ฟิวเจอร์สของหุ้นรายตัวมีทั้งการปรับเพิ่มและลดอัตราหลักประกันในบางหุ้นอ้างอิง

"การปรับเปลี่ยนอัตราหลักประกันนั้น เป็นวิธีการที่สำนักหักบัญชีดำเนินการเป็นปกติ โดยจะปรับอัตราหลักประกันขึ้นหากราคาฟิวเจอร์สมีความผันผวนสูงขึ้น ในทางตรงข้ามหากความผันผวนของราคาฟิวเจอร์สลดลงก็จะปรับลดอัตราหลักประกันลงซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับขึ้นและปรับลดอัตราหลักประกันของฟิวเจอร์สทั้ง 2 ประเภทมาแล้ว อย่างไรก็ดีการปรับหลักประกันในครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงในอัตราที่ค่อนข้างสูงจึงต้องการให้ผู้ลงทุนรับทราบข้อมูลและเตรียมการในเรื่องเงินประกันไว้เป็นการล่วงหน้า" นางเกศรากล่าว

ที่มา
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000103903